ตอนดูที่เช่าทำตู้คิดว่าคงอยู่บนอาคารดูออกมา
คนเขียนแบบตึกลืมมาดูสถานที่จริง
อันนี้พูดไม่ออกเบี้ยวได้อีก
ระวังหัวเอาเองละกัน
..... แล้วกูจะเดินขึ้นยังไง
เทคโนโลยี สำหรับคุณ
ตอนดูที่เช่าทำตู้คิดว่าคงอยู่บนอาคารดูออกมา
คนเขียนแบบตึกลืมมาดูสถานที่จริง
อันนี้พูดไม่ออกเบี้ยวได้อีก
ระวังหัวเอาเองละกัน
..... แล้วกูจะเดินขึ้นยังไง
.................กุ้งเรดบี (Red Bee Shrimp) ถือกำเนิดครั้งแรกเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้วในประเทศญี่ปุ่น โดยการนำกุ้งบี ธรรมดามาผสมพันธุ์กันแบบสายเลือดชิด (ในธรรมชาติเราจะพบกุ้งบีได้ตามลำธารทางตอนใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน) กุ้งบีจัดอยู่ในกลุ่มกุ้งแคระตระล “Caridima” เมื่อโตเต็มที่จะมีความยาวลำตัวเพียง 3-4 เซนติเมตรเท่านั้น ลำตัวจะสั้นป้อม มีตั้งแต่สีน้ำตาลเข้ม สีดำไปจนถึงสีดำเหลือบน้ำเงิน มีปล้องสีขาวจาง ๆ สลับใส ตรงปลายส่วนหัวบริเวณกรีกลางตัวและอาจมีบ้าง บริเวณปลายหาง คุณซูซูกิ ผู้ผสมพันธุ์กุ้งเรดบีเป็นคนแรกได้มีการนำกุ้งบีหลายพันตัว ใช้เวลานาน กว่า 6 ปี หมดเงินไปกว่า 3 ล้านบาท ผสมพันธุ์จนได้กุ้งบีที่มีลักษณะลำตัวเป็นสีแดงสลับกับปล้องใส จึงเป็นที่มาของกุ้งเรดบี
.................ราคาของเจ้าเรดบีขึ้นอยู่กับการแยกเกรด เราสามารถแบ่งเกรดของกุ้งได้จากความแดงของปล้องสีแดง ความหนาแน่นของเม็ดสีขาว และแถบสีขาวที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่เกรดต่ำที่สุด คือ เกรด D ต่อมาก็เป็นเกรด C, B, A และ S นับจากเกรด S นี้ สีแดงของกุ้งจะชัดเจน แถบสีขาวมีมากขึ้นและจะเริ่มพัฒนาต่อไปอย่างเห็นได้ชัดจากเกรดนี้ ต่อจากนั้นยังสามารถแยกกุ้งเกรด S ออกเป็น Level ต่างๆ ได้อีก 5 Level โดยเริ่มนับจาก Level 1 ไปจนถึง Level 5 ราคาของ เรดบี เริ่มตั้งแต่ 100 กว่าบาทไปจนถึงหลักแสน เช่น Level 5 ที่ราคาสูงสุดในขณะนี้คือ 100,000 บาท (ตัวเดียวนะครับ)
แพงๆ ก็หน้าตาแบบนี้แหละครับ
.................เนื่องจากไม่ใช่กุ้งป่าที่จับและรวบรวมมาจากธรรมชาติ แต่เป็นกุ้งที่ได้รับการคัดเลือกสายพันธุ์ในที่เลี้ยงอย่างพิถีพิถัน จะต้องมีการควบคุมน้ำและดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ กุ้งเรดบีไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในธรรมชาติเพราะเป็นกุ้งที่มีความเปราะบางมาก ไม่ถูกกับสารเคมีทุกชนิด เป็นกุ้งที่ชอบน้ำสะอาดและมีปริมาณออกซิเจนละลายอยู่ในน้ำสูง ชอบ สภาพน้ำที่เป็นกรดอ่อน ๆ ที่มีค่า pH เฉลี่ย 6.2-7.2 (ที่เหมาะสมที่สุดน้ำที่ใช้เลี้ยงควรมีค่า pH = 6.5) ตู้ที่ใช้เลี้ยงกุ้งเรดบีควรมีขนาดตั้งแต่ 12 นิ้วขึ้นไปพื้นตู้จะต้องปูด้วยดินภูเขาไฟ ในตู้จะต้องมีเครื่องกรองน้ำที่มีประสิทธิภาพ อุณหภูมิของน้ำจะต้องต่ำกว่าเลี้ยงปลาสวยงามทั่วไปคืออยู่ระหว่าง 22-25 องศาเซลเซียส จึงต้องมีเครื่องทำความเย็น (Chiller)
อันดับที่ 1 Bugatti Veyron
-เร็วเป็นดับที่สองของโลก
-เครื่องยนต์สุดพิเศษ w16 (16 cylinders in 4 banks of 4 cylinders fed by four turbochargers)
-อัตราเร่ง 0-100 km/h ใน 2.6 sec
-ความเร็วสูงสุด 407.5 km/h
อันดับ 2 Lamborghini Reventon
-มีเพียง 20 คันในโลก และมีการสั่งจองหมดตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มผลิต
-เครื่องยนต์ V12 6496 cc. 650 แรงม้า
-E-gear / 6-speed manual
-อัตราเร่ง 0-100 km/h in 3.3 sec.
-ความเร็วสูงสุด 337 km/h
-เป็นรุ่นที่ดีที่สุดที่ Lamborghini เคยผลิตมา
ราคา ........ $1,600,000
อันดับ 3 McLaren F1
-ถือเป็นรถยนต์สุดหรูที่มีอายุการผลิตนานที่สุดคือตั้งแต่ปี 1994
-ทำจากวัสดุราคาแพงหลายอย่าง เช่น คาร์บอน ไทเทเนียม ทอง และคาร์บอนไฟเบอร์
-เป็นอดีตแชมป์รถที่เร็วที่สุดในโลก
-เครื่องยนต์ 6L V12 6064 cc. 627 แรงม้า จาก BMW
-อัตราเร่ง 0 - 100 km/h in 3.2 sec , 0-300 km/h in 30 sec.
-ความเร็วสูงสุด 386 km/h ถือว่าเร็วมากๆ ในปี 1994
ราคา ..................... $ 970,000
อันดับ 4 Ferrari Enzo
-มีเพียง 399 คันในโลก และมีแนวโน้มราคาพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
-ตัวถังทำจาก คาร์บอนไฟเบอร์
-เครื่องยนต์ V12 5988 cc. 660 แรงม้า
-เกียร์ 6 speed กึ่งอัตโนมัติ
-อัตราเร่ง 0 - 100 km/h ใน 3.4 sec.
-ความเร็วสูงสุด 347 km/h
ราคา ............ $ 670,000
อันดับ 5 Pagani Zonda F specs
-ออกแบบโดย Juan Manuel Fagio แชมป์โลก F1 ห้าสมัย
-เครื่องยนต์ V12 7.3 ลิตร 620 แรงม้า ของ Mercedes Benz
-อัตราเร่ง 0 - 100 km/h in 3.5 sec.
-ความเร็วสูงสุด 346 km/h
ราคา ......... $ 667,321
อันดับ 6 2009 SSC Ultimate Aero
-ครองตำแหน่งอันดับที่ 1 รถที่เร็วที่สุดในโลกด้วยความเร็วสูงสุด 432 km/h
-เครื่องยนต์พิเศษสุดทำจากอลูมิเนียมชิ้นเดียวไร้รอยต่อ
-เครื่องยนต์ Twin Turbo V8 7000 cc. 1287 แรงม้า ...... (ทำให้ผมอึ้งไปพักใหญ่ว่าจะแรงไปไหน)
-เกียร์ ธรรมดา 6 speed
-อัตราเร่ง 0 - 100 km/h in 2.7 sec.
-สีขาวที่เห็นเป็นรุ่นใหม่นะครับ เพิ่มประสิทธิภาพจากเดิมหลายอย่างทั้งเครื่องยนต์และระบบต่างๆ
ราคา .......... $ 654,000
อันดับ 7 Saleen S7 Twin Turbo
-ตัวถัง คาร์บอนไฟเบอร์ และ อลูมิเนียม
-เครื่องยนต์ Twin Turbo V8 7000 cc. 750 แรงม้า
-เกียร์ธรรมดา 6 speed
-อัตราเร่ง 0 - 100 km/h ใน 3.2 sec.
-ความเร็วสูงสุด 396 km/h
ราคา ....... $555,000
อันดับที่ 8 Koenigsegg CCX
-เป็นรถรุ่นพิเศษที่ผลิดเพื่อฉลอง 10ปี การก่อตั้งบริษัท
-ตัวถังทำจากอลูมิเนียม
-เครื่องยนต์ Supercharged V8 4700 cc. 806 แรงม้า
-เกียร์ ธรรมดา 6 speed
-อัตราเร่ง 0 - 100 km/h ใน 3.2 sec.
-ความเร็วสูงสุด 406 km/h
ราคา ......... $545,568
อันดับที่ 9 Mercedes Benz SLT Mclaren Roadster
-ตัวถังทำจาก คาร์บอนไฟเบอร์
-เครื่องยนต์ Supercharge v8 5439 cc. 617 แรงม้า
-5 speed Automatic
-อัตราเร่ง 0 - 100 km/h ใน 3.8 sec.
-ความเร็วสูงสุด 330 km/h
ราคา ......... $495,000
อันดับที่ 10 Porsche Carrera GT
-ผลิตโดย Porsche เยอรมันนี เครื่องยนต์ V10 5.7 ลิตร 612 แรงม้า
-อัตราเร่ง 0 - 100 km/h ใช้เวลา 3.9 วินาที
-ความเร็วสูงสุด 330 km/h
-เกียร์ ธรรมดา 6 ระดับ
-มี 5 สี ได้แก่ ดำ, แดง, เหลือง, ดำภูเขาไฟ และสีเงิน
ราคา..... $440,000ขนมจ่ามงกุฏ เป็นขนมที่มีมาแต่โบราณและมักจะนิยมใช้ในงานมงคลต่าง ๆ อาทิเช่น งานแต่งงาน งานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น และในสมัยก่อนขนมจ่ามงกุฏจะนิยมให้กันมากในโอกาสที่ได้รับเลื่อนตำแหน่ง เลื่อนยศถาบรรดาศักดิ์ นอกจากชื่อของขนมจ่ามงกุฏเป็นชื่อที่เป็นมงคลแล้ว ยังมีความหมายที่ดีอีกด้วย ซึ่งมีความหมายคือ หัวหน้าผู้ซึ่งเป็นใหญ่ และด้วยวิธีทำที่ค่อนข้างยุ่งยาก ขนมจ่ามงกุฏจึงจะถูกมอบให้เฉพาะบุคคลที่ได้รับการยกย่องจริงๆ เท่านั้น และด้วยวิธีการทำที่ยุ่งยากนี้เอง ในปัจจุบันจึงเป็นขนมที่ค่อนข้างหาทานได้ยาก
วิธีทำ (ยากมาก ๆ เลยนะเนี่ย โดยเฉพาะตอนทำเม็ดแตง)
Ashera เป็นแมวพันธุ์ใหม่ ที่บอกว่าใหม่ก็เพราะว่าไม่ได้มีตามธรรมชาติแต่เป็นการผสมขึ้นเองโดยเทคนิควิศวะพันธุกรรม เพื่อการค้า และตอนนี้ก็ถือว่าเป็นแมวที่มีค่าตัวแพงที่สุดในบรรดาน้องแมวทั้งหลาย สำหรับคนที่จะเลี้ยงก็ต้องกระเป๋าหนักหน่อย
- แมวอาชีร่า (Ashera)เป็นแมวพันธุ์ใหม่ที่คิดค้นผสมพันธุ์โดยทีมงานบริษัท แคลิฟอร์เนีย ไบโอเทค
- ผสมจาก แมวป่าแอฟริกัน (African Surval) แมวเสือดาวเอเชีย (Asian Leopard Cat) และแมวบ้าน
- น้ำหนักสูงสุดประมาณ 13 กิโลกรัม.
- อายุโดยประมาณ 25 ปี
- ราคา 22,000 $us
- ตัวที่ป้องกันการแพ้ขนแมว ราคา 28,000$us
- ถึงจะตัวใหญ่แต่ก็น่ารักเป็นมิตรและขี้อ้อนเหมือนแมวทั่วไป
ใครจะรู้บ้างว่าเม้าส์ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ มันมาได้อย่างไร แล้วตอนนี้มันพัฒนาไปถึงไหนกันแล้ว
กำเนิดเม้าส์
- ผลิตขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1963 โดยดักลัส เองเกลบาท (Douglas Engelbart)
- ตอนแรกมีอีกชื่อหนึ่งคือ Bug แต่ไม่เป็นที่นิยม จึงเรียกว่าเม้าส์มาจนปัจจุบัน
-เริ่มแรกมีการผลิดหลายรูปแบบทั้งติดจมูก ติดคาง แต่สุดท้ายก็มาลงตัวที่เม้าใช้มือในการบังคับ
- เมาส์ตัวแรกใช้เฟือง 2 ตัววางในลักษณะตั้งฉากกัน เรียก X-Y Position Indicator For A Display System
- เมาส์แบบต่อมาถูกประดิษฐ์ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1970 โดย บิล อิงลิช (Bill English) เป็นเม้าส์แบบใช้ลูกกลิ้ง
- และในปัจจุบันก็มีเม้าแบบใช้แสงแทนซึ่งพัฒนาโดย บริษัท Logitech
เสือโคร่งขาวมีถิ่นกำเนิดจากประเทศอินเดีย จะเรียกกันว่า เสือเบงกอล เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ พบได้น้อยมากในธรรมชาติ โดยเสือโคร่งขาวตัวแรกพบที่ประเทศอินเดีย เป็นเสือโคร่งขาวเพศผู้ชื่อ “โมฮัน” แล้วจึงนำมาเลี้ยงร่วมกับเสือโคร่งเบงกอลเพศเมีย จากนั้นจึงได้ลูกหลานที่เกิดจาก “โมฮัน” ซึ่งเสือโคร่งขาวเช่นเดียวกันต่อมาอีกหลายตัว
ลักษณะ
- ลำตัวยาว 3 เมตร
- น้ำหนัก 180-285 kg
- ขนตามตัวเป็นสีขาวพาดด้วยลายสีดำ(บางตัวก็ขาวทั้งตัวไม่มีลาย)
- ตาสีฟ้าอ่อน
เสือขาวที่เกิดมาเพื่อเป็น เสือเบงกอล จะมีหน่วยพันธุกรรมขนสีขาวโดยกำเนิดเป็นปรกติ เป็นเสือที่ว่ายน้ำเก่ง แต่ความสามารถในการปีนต้นไม้ต่ำมากเมื่อเทียบกับพันธุ์อื่นๆ นอกจากนี้แล้ว ยังวิ่งได้ค่อนข้างช้าแต่ความสามารถในการล่าเหยื่อยก็ไม่แพ้ เสือในตระกูลเดียวกัน เพราะเสือเบงกอลนั้นมีความสามารถในการหลบซ่อนตัวได้ดี เสือขาวที่มีในโลกตอนนี้ มีน้อยมากในธรรมชาติ ส่วนใหญ่จะถูกเลี้ยงไว้ในสวนสัตว์ และก็มีเพียงประมาณ 200 ตัวเท่านั้น
อ้างอิง
http://www.indianchild.com/white_tigers.htm
http://www.dusitzoo.org/index.php?option=com_content&task=view&id=31&Itemid=47
credit
http://davesgarden.com/guides/bf/go/768/
Ecosse Titanium Series ทำจากเฟรมไทเทเนียมทั้งคัน เป็นรุ่นแรกของโลก นอกจากนั้นยังใช้เครื่องยนต์ที่ทำจาก polished billet aluminium 2150 cc เครื่องยนต์รูปตัว v-twin ทำให้ได้กำลังสูงถึง 200 แรงม้า ราคา USD$275,000
ซึ่งบริษัท ESCOSSE ได้ผลิตออกมาหลักๆ แล้ว 2 รุ่น สำหรับ นักขับที่ชื่นชอบมอเตอร์ไซค์ ซึ่งแต่ละแบบก็มีความโดดเด่น ไม่เหมือนกัน ดังนี้
Experimental-6 (X-4)
Experimental-6 (X-5)
Experimental-6 (X-6)
หน้าตาจะคล้ายๆ กันประมาณนี้แหละครับ
อันที่จริงแล้ว มอเตอร์ไซค์ ของบริษัทนี้ ก็ได้ชื่อว่าเป็นมอเตอร์ไชด์ที่แพงที่สุดในโลกด้วย ในแง่ของการผลิตขายจริงๆ ในตลาด แต่ถ้าพูดในแง่ของแพงที่สุดในโลกที่เคยผลิตขึ้นมาบนโลก ก็ต้องเป็นอีกรุ่นหนึ่งครับ เอาไว้วันหลังจะ up2date ให้ได้เห็นกันนะครับ